วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558
On 01:51 by EForL No comments
หญิงสาวชาวเหนือแต่งงานกับหนุ่มใต้ ฝ่ายหญิงไม่ทานเผ็ด
แต่หนุ่มใต้ขาดเผ็ดไม่ได้
มีอยู่วันหนึ่ง ฝ่ายหญิงไปเยี่ยมบ้านของฝ่ายชาย
พ่อของฝ่ายชายชอบทานเค็มมากและในวันนั้นพ่อของสามีเป็นคนทำอาหาร
เมื่อถึงเวลาทานรับประทานอาหาร
คุณแม่ของสามีถือถ้วยใส่น้ำร้อนมาใบหนึ่ง ก่อนทานแม่ของสามีจะคีบอาหารผ่านน้ำร้อนในถ้วยก่อนแล้วจึงรับนำเข้าปาก
เธอสังเกตสิ่งที่แม่ของสามีทำจึงเข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่จึงอยู่กันได้ยืดยาว
วันต่อมา เธอทำอาหารที่สามีชอบทาน
แน่นอน แต่ละอย่างมีรสเผ็ดจัดจ้าน แต่ตรงหน้าของเธอ มีน้ำร้อนอยู่ถ้วยหนึ่ง สามีของเธอเห็นภรรยาคีบอาหารผ่านน้ำร้อนแล้วก็ทานอย่างเอร็ดอร่อย
วันต่อมา สามีของเธออาสาทำอาหารบ้าง แต่อาหารที่เขาปรุงไม่มีอะไรที่เผ็ดเลยสักอย่าง
แต่ว่า ตรงหน้าของเขา มีจานเล็ก ๆ ที่มีพริกอยู่เต็มจาน
ทุกครั้งที่เขาตักข้าวเข้าปาก เขาก็จะหยิบพริกในจานนั้นตามเข้าปากไปด้วย
ทุกคำข้าวอร่อยเหมือนเดิม...
นี้คือเรื่องที่มีแต่ในละครหลังข่าว
ในชีวิตแทบจะไม่มีผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนที่เลือกคู่สมรถของตนเองที่มีรสนิยมแตกต่างกันขนาดนี้
(กรณีที่เลือกได้) แต่กรณีที่เลือกคู่ชีวิตไม่ได้หรือไม่ให้ความสำคัญกับการเลือกคู่ชีวิต
เมื่อเจอคู่ชีวิตมีรสนิยมด้านต่าง ๆ แตกต่างกันมากย่อมอยู่ด้วยกันได้ไม่ยืนยาว
ทำอย่างไรให้รักกันนาน ๆ
สิ่งที่ส่งเสริมให้ชีวิตสมรสทุกคู่มีความสุข
ราบรื่น มั่นคงยืนยาว มีด้วยกัน 4 ข้อ ดังนี้
1. มีความเชื่อไปในแนวทางเดียวกัน เช่น ถือศาสดาองค์เดียวกัน
เชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องกรรมวิบากกรรมด้วยกัน เชื่อว่าโลกกลมหรือโลกแบนเหมือน ๆ กัน
เชื่อแนวทางในการดำรงชีวิตรูปแบบเดียวกัน เป็นต้น
ถ้าหากศรัทธาไม่ตรงกันก็คุยกันไม่รู้เรื่อง เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็คุยกันได้ไม่นาน
เมื่อคุยกันได้ไม่นานก็เบื่อกันเร็ว อันนี้คือความจริงที่เกิดขึ้น
ไม่จำเพาะเฉพาะคู่รักเท่านั้น
ขนาดเพื่อนกันแต่เชื่อไม่เหมือนกันยังยากที่จะเป็นเพื่อนสนิทเลยครับ
2. มีข้อประพฤติปฏิบัติเสมอกัน คือ
มีความคิดงดเว้นข้อประพฤติผิดแบบเดียวกัน เป็นเหตุให้ไม่รังเกียจหรือหมั่นไส้กัน
เพราะศีลที่ร่วมรักษาให้บริสุทธิ์ดีแล้วย่อมทำหน้าที่สร้างความอบอุ่นเชื่อมั่นในกันและกัน
สนิทใจ ไว้วางใจกันเป็นมั่นเหมาะ
3. นิสัยในการแบ่งปันเสมอกัน (จาคะ)
อย่างน้อยต้องเป็นผู้ให้ซึ่งกันและกันในทางใดทางหนึ่ง เช่น อีกฝ่ายสละเงินให้ใช้
อีกฝ่ายสละแรงปรนนิบัติ เป็นต้น การเอารัดเอาเปรียบเกิดจากจาคะที่ไม่เสมอกัน
ยิ่งหากต่างฝ่ายต่างคิดเจือจานคนอื่น
เห็นข้าวของอะไรไม่ใช้แล้วก็คิดตรงกันว่าน่าบริจาคแก่คนที่เขาไม่มี อย่างนี้ยิ่งไปกันได้
มีโอกาสร่วมบุญกันบ่อย ๆ ยิ่งให้คนอื่นมากก็ยิ่งได้ความสุข
จาคะที่ร่วมกันยินดีโดยพร้อมเพรียงย่อมก่อความรู้สึกซึ้งใจ
เหมือนอยู่ด้วยกันจะเป็นที่พึ่งให้กัน ปลอดภัยร่วมกัน เป็นคู่ครองที่ดี
4. มีปัญญาเสมอกัน คือ คุยกันรู้เรื่องพูดภาษาเดียวกัน
หรืออย่างน้อยเป็นไปในทางเดียวกัน ไม่ใช่พูดคนละภาษา ฝ่ายหนึ่งทำก่อนคิด
อีกฝ่ายคิดก่อนทำ หรือฝ่ายหนึ่งเอาอารมณ์พูด อีกฝ่ายพูดด้วยสติปัญญา
ถ้ารสนิยมเสนอกันอย่างนี้ รับรองได้เป็นกิ่งทองใบหยกอย่างที่แขกผู้มาร่วมในวันแต่งงาน
อวยพรให้อย่างแน่นอน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Search
สนับสนุนผู้เขียน
เสียงเพรียกแห่งธรรม
บทความยอดนิยม
บทความทั้งหมด
- สิงหาคม 2018 (1)
- สิงหาคม 2016 (1)
- กรกฎาคม 2016 (1)
- มิถุนายน 2016 (5)
- เมษายน 2016 (1)
- มีนาคม 2016 (3)
- มกราคม 2016 (1)
- พฤศจิกายน 2015 (3)
- ตุลาคม 2015 (2)
- สิงหาคม 2015 (1)
- กรกฎาคม 2015 (1)
- มิถุนายน 2015 (3)
- พฤษภาคม 2015 (1)
- เมษายน 2015 (1)
- มีนาคม 2015 (1)
- ธันวาคม 2014 (5)
- พฤศจิกายน 2014 (4)
- พฤศจิกายน 2009 (4)
- มิถุนายน 2009 (5)
- กุมภาพันธ์ 2009 (2)
- มกราคม 2009 (4)
- พฤศจิกายน 2008 (7)
- ตุลาคม 2008 (2)
- กรกฎาคม 2008 (1)
สถิติผู้เข้าชม
ชีวิตไม่ใช่ เครื่องจักรมันมีความซับซ้อนมีความสดใส ร่าเริงมองโลกในแบบต่างๆรักอิสระ รักพวกพ้อง และมีปัญหาหลากหลาย ต้องการใครสักคน มาให้คำตอบเพื่อเป็นแนวทาง ในการดำเนินชีวิต