วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559
On 00:52 by EForL in ความสำเร็จ No comments
ชีวิตไม่ได้มีแต่เรื่องของความสำเร็จและความล้มเหลวเท่านั้น
ยังมีหลายอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นองค์ประกอบแห่งชีวิต หนึ่งในจำนวนนั้นคือ
"ความสุข" ชีวิตที่ไร้สุข แม้จะประสบความสำเร็จ
จะเรียกว่าเป็นชีวิตที่มีคุณภาพได้อย่างไร
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ในอันนนาถสูตร ว่า "ความสุข ๔
ประการ
ที่มนุษย์(ผู้ครองเรือน)ทุกคนพึงได้รับตามกาลสมัย" ได้แก่
1.
สุขอันเกิดจากการมีทรัพย์
2.
สุขอันเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง
หรือสร้างประโยชน์สุขต่อบุคคลอื่นในสังคม
3.
สุขจากการไม่เป็นหนี้
4.
สุขอันเกิดจากการทำงานไม่มีโทษ
คือความภูมิใจว่าตนมีความประพฤติสุจริต มีอาชีพที่สุจริต ไม่ได้ไปปล้นใครกิน
ความสุขทั้งสี่ประการนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า
ความสุขอันเกิดจากการทำงานไม่มีโทษยอดเยี่ยมที่สุด
วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559
On 05:40 by EForL in ความสามัคคี No comments
ณ ป่าแห่งหนึ่ง
มีฝูงนกกระจาบฝูงใหญ่อาศัยอยู่ในราวป่า
วันหนึ่ง
นกกระจาบจ่าฝูงได้แนะนำนกกระจาบทุกตัวว่า
" ท่านทั้งหลาย
เมื่อถูกตาข่ายของนายพรานครอบแล้ว ให้ท่านทุกตัวสอดหัวเข้าในตาข่ายตาหนึ่งๆ
แล้วพากันบินไปที่ต้นไม้มีหนาม ทิ้งตาข่ายไว้แล้วบินหนีไปนะ "
หมู่นกกระจาบพากันรับคำ
ต่อมาอีกสองวัน ฝูงนกกระจาบถูกตาข่ายของนายพรานเข้าก็พากันทำเช่นนั้น
ทำให้นกทุกตัวสามารถหนีรอดไปได้
อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่นกกระจาบเหล่านี้กำลังหากินอาหาร
มีนกกระจาบตัวหนึ่งบินลงพื้นแต่พลาดไปเหยียบถูกหัวนกกระจาบอีกตัวหนึ่งเข้า
ตัวถูกเหยียบหัวโกรธจึงเป็นเหตุให้ทะเลาะกันลามไปทั้งฝูง ฝ่ายนกกระจาบจ่าฝูง
เห็นพวกนกมัวแต่ทะเลาะกัน ก็คิดว่า
" ขึ้นชื่อว่า
การทะเลาะกัน ย่อมไม่มีความปลอดภัย ความพินาศจะเกิดขึ้น "
จึงได้พาบริวารส่วนหนึ่งบินหนีไปอยู่ที่อื่น
ฝ่ายนายพราน พอผ่านไปสองสามวัน ก็มาดักตาข่ายอีก
พอฝูงนกติดตาข่ายของนายพรานในครั้งนี้อีก ต่างทะเลาะกัน เกี่ยงกันบิน ต่างคนต่างบินไปคนละทิศคนละทาง
สุดท้ายตาข่ายก็ไม่ลอยขึ้นไปที่สูง เมื่อนายพรานตรวจดูตาข่ายก็เห็นฝูงนกติดอยู่เต็มไปหมด
จึงรวบไปเป็นอาหารและขายเพื่อนำทรัพย์มาเลี้ยงชีพ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
การทะเลาะกัน นำมาซึ่งความพินาศ
กาลครั้งหนึ่ง
ณ เมืองตักกะศิลา มีพราหมณ์คนหนึ่งมีลูกสาวสวยงามมาก เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั่วทั้งอาณาจักร
ในแต่ละวันจะมีชายหนุ่มมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาจีบลูกสาวของพราหมณ์คนนี้อย่างไม่ขาดสาย
ในบรรดาชายหนุ่มที่เข้ามาจีบลูกสาวของพราหมณ์นั้น มีชายหนุ่ม ๔ คน ที่เข้าตาของพราหมณ์
คือ
คนที่
๑ เป็นคนรูปหล่อ
คนที่
๒ มีชื่อเสียงเป็นที่นับหน้าถือตา
คนที่
๓ เป็นเศรษฐีมั่งคั่ง
คนที่
๔ เป็นคนมีศีลธรรม
พราหมณ์คิดหนักว่าจะเลือกใครเป็นลูกเขยดี
เพราะทั้ง ๔ คน ก็มีความดีแตกต่างกันไป
เขาจึงตัดสินใจไปปรึกษาอาจารย์ทิศาปาโมกข์ว่า
"ท่านอาจารย์ครับ
ผมมีเรื่องกลุ้มใจมาปรึกษาอาจารย์ คือมีชายหนุ่มที่มีลักษณะเด่นอยู่ ๔ คน มาจีบลูกสาวผม
ผมคิดไม่ตกว่าจะเลือกใครดี ถ้าอาจารย์เป็นผมจะเลือกเอาคนไหน ระหว่างคนหล่อ คนมีชื่อเสียงเป็นที่นับหน้าถือตา
คนมีเงินมาก และคนมีศีล"
อาจารย์ทิศาปาโมกข์ตอบว่า
"รูปร่างหน้าตาดีก็มีประโยชน์ คนมีชื่อเสียงเป็นที่นับหน้าถือตาก็น่าเคารพ ผู้มีเงินมีทองมีชาติสูงก็มีประโยชน์
แต่ข้าพเจ้าชอบใจศีล"
"เพราะ....คนไม่มีศีลถึงรูปหล่อก็น่าตำหนิ
คนไม่มีศีลถึงมีชื่อเสียงก็ไม่น่าคบหา
คนไม่มีศีลถึงมีทรัพย์มากก็ไม่อาจรักษาทรัพย์ได้ "
พราหมณ์ฟังแล้วชอบใจ
พอกลับไปถึงบ้านจึงตัดสินในยกลูกสาวให้แก่คนผู้มีศีลไป
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ผู้มีศีลธรรมย่อมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง”
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Search
สนับสนุนผู้เขียน
เสียงเพรียกแห่งธรรม
บทความยอดนิยม
บทความทั้งหมด
- สิงหาคม 2018 (1)
- สิงหาคม 2016 (1)
- กรกฎาคม 2016 (1)
- มิถุนายน 2016 (5)
- เมษายน 2016 (1)
- มีนาคม 2016 (3)
- มกราคม 2016 (1)
- พฤศจิกายน 2015 (3)
- ตุลาคม 2015 (2)
- สิงหาคม 2015 (1)
- กรกฎาคม 2015 (1)
- มิถุนายน 2015 (3)
- พฤษภาคม 2015 (1)
- เมษายน 2015 (1)
- มีนาคม 2015 (1)
- ธันวาคม 2014 (5)
- พฤศจิกายน 2014 (4)
- พฤศจิกายน 2009 (4)
- มิถุนายน 2009 (5)
- กุมภาพันธ์ 2009 (2)
- มกราคม 2009 (4)
- พฤศจิกายน 2008 (7)
- ตุลาคม 2008 (2)
- กรกฎาคม 2008 (1)
สถิติผู้เข้าชม
ชีวิตไม่ใช่ เครื่องจักรมันมีความซับซ้อนมีความสดใส ร่าเริงมองโลกในแบบต่างๆรักอิสระ รักพวกพ้อง และมีปัญหาหลากหลาย ต้องการใครสักคน มาให้คำตอบเพื่อเป็นแนวทาง ในการดำเนินชีวิต